[SF] The suspect (Sunggyu x Eunji)
EJ : คุณมาทำอะไรที่นี่คะ SG : ผมมาจับคนร้ายครับ
ผู้เข้าชมรวม
1,197
ผู้เข้าชมเดือนนี้
2
ผู้เข้าชมรวม
เนื้อเรื่อง
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ซึลพอฮาจิมา No No No~
ฮนจากาอานยา No No No~
เสียงริงโทนโทรศัพท์ของหญิงสาวดังขึ้นยามค่ำคืน
“อึนจี แกว่างใช่ป้ะ ยังไม่นอนใช่มั้ย” เสียงจากปลายสายดังขึ้นทันทีที่กดรับสาย
“มีอะไรอ่ะนาอึน บอกแล้วว่าคืนนี้ขอผ่าน” หญิงสาวเจ้าของนามอึนจีรับโทรศัพท์แล้วพูดเป็นเชิงปฏิเสธการชวนเที่ยวของกลุ่มเพื่อนรัก
“ไม่ใช่ แต่พวกชั้นกับนัมจูเริ่มเมาๆกันแล้ว ส่วนโบมีไม่ต้องพูดถึง เมาเละเทะเลย ขับรถกลับไม่ได้ แกมารับพวกชั้นหน่อยสิ” นาอึนบอกจุดประสงค์ของการโทร.มาครั้งนี้
“อ่าวหรอ.. เออๆ ก็ได้ เดี๋ยวฉันจะนั่งแท็กซี่ไปแล้วขับรถโบมีไปส่งที่บ้านมันละกัน” หญิงสาวตกลงอย่างเลี่ยงไม่ได้
“โอเคๆ เร็วหน่อยนะ โบมีมันไม่ไหวแล้วเนี่ย”
ณ ผับP
เสียงดนตรีในสถานบันเทิงดังกระหึ่ม อึนจีในชุดเสื้อยืดสีขาวสวมทับด้วยเชิ้ตลายสก็อตขาวดำกับกางเกงยีนส์ขายาวพร้อมรองเท้าผ้าใบยี่ห้อดังเดินเข้ามาข้างในและมองหากลุ่มเพื่อนของเธอ
“อึนจี! มาแล้วเหรอ อึก.. นาอึนกับโบมีอยู่โน่นอ่ะ” นัมจูเดินเซๆเล็กน้อยตรงเข้ามาหาแล้วก็ลากอึนจีไปหาหญิงสาวอีก 2 คน
“อึนจี แกมาแล้วเหรอ ฉันว่าโบมีนี่มันไม่ไหวแล้วจริงๆนะเนี่ย เหวอ~ มันจะอ้วกด้วยอ่ะ” นาอึนที่พยุงโบมีอยู่อย่างทุลักทุเลเอ่ยทักหญิงสาวผู้มาใหม่
“เอางี้ เดี๋ยวฉันจะพาโบมีไปห้องน้ำ ส่วนพวกแกไปรอที่รถโบมีก่อน เดี๋ยวตามไป” ว่าแล้วอึนจีก็พยุงตัวโบมีที่เมามายไม่ได้สติตรงไปที่ห้องน้ำ
“เฮ้ย~ อึนจี เดี๋ยวชั้น เอิ้ก~ เข้าไปเอง แกรอนี่แหละ” โบมีพูดกับอึนจีด้วยคำพูดที่ไม่ค่อยจะชัดนัก ก่อนจะเดินโซเซเข้าไปในห้องน้ำ ทิ้งอึนจีให้ยืนรออยู่ข้างหน้า
“เฮ้ย! นั่นมันห้องน้ำชาย” แต่เมื่อโบมีกำลังจะเปิดประตูห้องน้ำ อึนจีก็ต้องตะโกนเตือนไว้ก่อนที่เพื่อนขี้เมาของเธอจะเลี้ยวเข้าห้องน้ำผิด
“แหะๆ ล้อเล่น~” โบมีหันมาพูดยิ้มๆแล้วเดินเข้าไปในห้องน้ำหญิง ส่วนอึนจีก็ได้แต่ยืนถอนหายใจรออยู่ข้างนอก
“หืม~ น้อง มายืนทำอะไรตรงนี้คนเดียว” ชายร่างกำยำที่เพิ่งเดินออกมาจากห้องน้ำชายหยุดทักอึนจี
“เอ่อ… มีอะไรรึเปล่าคะ” หญิงสาวถามอย่างระแวงๆ
“คืนนี้ไปต่อกับพี่มั้ย? พี่รับรองว่าสนุกแน่” ชายร่างใหญ่เข้ามาประชิดตัวหญิงสาวอย่างรวดเร็วและใช้แขนล่ำทั้งสองกันไม่ให้หญิงสาวหนีได้ รอยยิ้มเจ้าเล่ห์ปรากฏขึ้นบนใบหน้า
“เฮ้ย! จ…จะทำอะไร ออกไปเลยนะ” หญิงสาวตะโกนไล่เสียงสั่น ใบหน้าสวยแบบธรรมชาติแสดงสีหน้าตกใจสุดขีด
“หึหึหึ”
“ช่วยด้วย!! ช่วยด้ว.. อุบ!!” หญิงสาวตะโกนร้องขอความช่วยเหลือแต่ก็ต้องถูกชายตรงหน้าเอามือใหญ่มาปิดปากไว้เสียก่อน เหงื่อเริ่มผุดขึ้นมาตามหน้าผากของหญิงสาวเพราะอาการแพนิค
“เฮ้ย!!”
พลั่ก!
“โอ๊ย! เฮ่ย มึงเป็นใครวะ” ชายร่างใหญ่ที่หันไปตามเสียงเรียกแต่แล้วก็โดนต่อยเข้าอย่างจังที่สันจมูก มือใหญ่กำหมูกที่มีเลือดกำเดาไหลออกมาแล้วหันไปจ้องหน้าต้นเสียงอย่างเอาเรื่อง
“เป็นตำรวจ มีอะไรไหม” ชายหนุ่มผู้มาใหม่ยกตราตำรวจให้ดู
“…” ทำให้ชายร่างใหญ่ได้แต่เงียบ
“อย่าไปทำรุ่มร่ามแบบนี้กับใครอีกล่ะ ไม่งั้นได้ไปนอนในคุกแน่” ตำรวจหนุ่มคนนั้นขู่
“ชิ..” ชายร่างหนาได้แต่ทำเสียงฮึดฮัดแต่แล้วก็ต้องจำใจจากไป…
“คุณไม่เป็นไรใช่ไหมครับ” ตำรวจหนุ่มหันไปหาหญิงสาวที่กำลังยืนตกใจกับสิ่งที่เกิดขึ้นอยู่
“อะ… ค่ะ ไม่เป็นไรค่ะ ขอบคุณมากนะคะช่วยฉันไว้ อ๊ะ! โบมี” หญิงสาวเอ่ยขอบคุณตำรวจหนุ่ม ก่อนที่หางตาจะหันไปเห็นเพื่อนสาวของตนออกมาจากห้องน้ำพอดี
“เอาเป็นว่าฉันต้องขอบคุณมากจริงๆนะคะ แต่ตอนนี้ต้องขอตัวพาเพื่อนกลับบ้านก่อนแล้วล่ะค่ะ” อึนจีเข้าไปพยุงตัวโบมี เอ่ยขอบคุณตำรวจหนุ่มคนนั้นอีกครั้ง แต่ขณะที่กำลังจะเดินจากไปตำรวจคนนั้นก็เอ่ยขัดไว้ก่อน
“งั้นผมช่วยดีกว่า มาครับ” ตำรวจหนุ่มเดินตามมาแล้วมาพยุงตัวโบมีไว้แทน
“อุ๊ย! ไม่เป็นไรหรอกค่ะ ฉันเกรงใจ”
“ไม่ต้องเกรงใจหรอกครับ เรื่องแค่นี้เอง” ตำรวจหนุ่มกล่าวกับหญิงสาวแล้วส่งยิ้มให้อย่างสุภาพ เป็นรอยยิ้มที่ผู้หญิงส่วนใหญ่ต่างหลงรัก ตาเล็กแต่ทรงเสน่ห์นั้นหยีเล็กลงฉายแววความเป็นเอเชียแท้ๆ แต่มันก็เข้ากับเครื่องหน้าอื่นๆของชายหนุ่มอย่างลงตัว
“ขอบคุณนะคะ” อึนจีเอ่ยขอบคุณเมื่อคนตรงหน้ายืนยันที่จะให้ความช่วยเหลือ แล้วก็เดินนำมาที่ลานจอดรถที่นาอึนและนัมจูรออยู่ “ถึงแล้วล่ะค่ะ ขอบคุณนะคะ คุณ…” นาอึนและนัมจูมารับตัวโบมีแล้วพาขึ้นรถไปขณะที่อึนจีเอ่ยขอบคุณตำรวจหนุ่มอีกครั้ง
“ซองกยูครับ คิมซองกยู” รอยยิ้มทรงเสน่ห์ปรากฏขึ้นบนใบหน้าหล่อเหลาอีกครั้ง
“ขอบคุณมากนะคะคุณซองกยู ฉันชื่อจองอึนจีนะคะ เปิดร้านกาแฟอยู่ที่ย่านXXXชื่อร้านMY MYค่ะ ถ้าว่างๆก็แวะไปได้นะคะ เดี๋ยวฉันเลี้ยงกาแฟคุณเอง” หญิงสาวแนะนำตัวบ้างแล้วส่งยิ้มหวานให้กำซองกยู
“ได้ครับ แล้วไว้ว่างๆผมจะแวะไป” ชายหนุ่มตอบยิ้มๆ “กลับดีๆนะครับ”
“ค่ะ” หญิงสาวหันกลับมายิ้มให้อีกครั้ง จากนั้นก็ขึ้นรถแล้วขับออกไป
แต่แม้ว่ารถของหญิงสาวจะแล่นออกไปตามถนนใหญ่แล้ว ซองกยูก็ยังคงยืนอยู่ที่เดิมแล้วมองไปทางที่หญิงสาวที่ขับรถออกไป
‘อึนจีเหรอ…น่ารักดีนี่’
ร้านกาแฟMY MY
“อ้าว! พี่จูฮยอน มาแต่เช้าเลยนะคะ” อึนจีเอ่ยทักหญิงสาวที่เดินเข้าร้านมาอย่างสนิทสนม
“อึนจี.. พี่บอกแล้วไงว่าให้เรียกว่าซอฮยอน” หญิงสาวที่เข้ามาใหม่ท้วง
“ค่า แหะๆๆ”
“พี่เอากาแฟเหมือนเดิมนะ” ซอฮยอนเอ่ยสั่งกาแฟ “ได้ข่าวว่าเมื่อวันก่อนจะโดนผู้ชายในผับทำมิดีมิร้ายเอาหรอ”
“อ่า…ค่ะ แต่พอดีมีคนมาช่วยไว้” อึนจีตอบขณะกำลังปรุงกาแฟให้กับซอฮยอน
“ไม่ลองพกนี่ไว้หรอ…?” ซอฮยอนหยิบบางสิ่งออกมาจากกระเป๋าให้อึนจีดู
“โห… ของแบบนี้ฉันไม่กล้าพกหรอกค่ะ” อึนจีละมือจากกาแฟครู่หนึ่งแล้วหยิบสิ่งนั้นขึ้นมาดูอย่างระมัดระวังก่อนจะส่งคืนให้ซอฮยอน “แล้วพี่ยงฮวาล่ะคะ” เธอถามถึงพี่ชายของจากซอฮยอนที่เป็นแฟนของเขา
“อ๋อ ทำงานอยู่กับคุณพ่อน่ะ”
“อ่อ.. นี่ค่ะกาแฟ” อึนจียกแก้วกาแฟมาวางไว้บนเคาน์เตอร์หน้าซอฮยอน
“อ่ะนี่จ้ะ” ซอฮยอนยื่นเงินให้
“ขอบคุณค่ะ” อึนจีเอ่ยขอบคุณพร้องส่งเงินทอนให้
“งั้นพี่ไปก่อนนะ” ซอฮยอนเดินออกมาแล้วหันมาโบกมือให้ แล้วก็เดินจากไป
“ผู้ตายชื่อนายจองกิโก ประธานบริษัทเฟอร์นิเจอร์รายใหญ่ สาเหตุการตายคือถูกยิง” ชางมินกล่าวกับเพื่อนซี้ขณะเดินไปที่เกิดเหตุ ซึ่งก็เป็นเรื่องปกติในการทำงานของตำรวจกองสืบสวนอย่างพวกเขาอยู่แล้ว
“แล้วไม่มีใครได้ยินเสียงปืนเลยเหรอ” ซองกยูถามคำถามออกไป
“ไม่มีเลย เพราะว่าเขาถูกฆ่าในห้องทำงานของเขาซึ่งเป็นผนังเก็บเสียง”
.
.
.
.
.
.
.
“นี่รอยอะไรน่ะ” ซองกยูเอ่ยถามฝ่ายพิสูจน์หลักฐานแล้วชี้ไปที่ผงสีๆที่อยู่บนพื้นพรม
“เป็นผงเครื่องสำอางครับ” ฝ่ายพิสูจน์หลักฐานตอบมา
“ญาติผู้ตายมาแล้ว” ชางมินบอกซองกยู
“คุณอึนจี…” ซองกยูรำพึงออกมาเมื่อหันไปพบว่าญาติผู้ตายเป็นใคร
“คุณซองกยู…” หญิงสาวเองก็ตกใจไม่แพ้กันที่ได้พบกับชายหนุ่มที่นี่
“นายรู้จักเหรอ” ชางมินกระซิบถามซองกยู
“ก็…ประมาณนั้น”
การสอบสวนเริ่มขึ้นในขณะที่ซองกยูและชางมินยังคงตรวจสอบสถานที่เกิดเหตุต่อไป ซึ่งสิ่งที่พบคือ ผงเครื่องสำอางบนพรม รอยรองเท้าเหยียบผงเครื่องสำอางซึ่งต่อมาทราบว่าเป็นรองเท้าผู้หญิง พบปืนที่คนร้ายทิ้งไว้ในถังขยะ และพบเหรียญตกอยู่ ทำให้ทางตำรวจสงสัยว่าฆาตกรมีความเป็นไปได้ที่จะเป็นผู้หญิง… เมื่อการสอบสวนและเก็บหลักฐานสิ้นสุดลง ตำรวจ เจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐานก็ถอนกำลังกันออกมา
“ผู้ต้องสงสัยมีใครบ้าง” ซองกยูเอ่ยถามชางมินที่เดินออกมาด้วยกัน
“คนที่เข้าออกห้องทำงานไม่เกินเที่ยงน่ะ ก็มี… คุณจองอึนจี เธอบอกว่าเธอโดนพ่อเรียกไปคุยเรื่องจะให้เธอมาทำงานด้วย แล้วก็เรื่องแต่งงานน่ะ” ชางมินตอบ
“ด…เดี๋ยวนะ คุณอึนจีเป็นลูกสาวของคุณกิโกหรอ”
“ใช่ ทำไมเหรอ?”
“เปล่า ก็เห็นว่าเธอเป็นเจ้าของร้านกาแฟน่ะ เลยไม่คิดว่าจะเป็นลูกของคุณกิโก”
“ก็เธออยากเปิดร้านกาแฟ แต่คุณกิโกอยากให้เธอมาทำงานด้วย แถมปีที่แล้วยังจะบังคับให้เธอแต่งงานด้วย สรุปก็คือ ความสัมพันธ์ของพ่อลูกคู่นี้ไม่ค่อยดีนัก”
“อ่อ… แล้วมีใครอีก”
“มีคุณจองยงฮวา ลูกชายน่ะ เป็นพี่ชายแท้ๆของคุณอึนจี เขาทำงานอยู่กับคุณกิโก ไม่ได้มีเรื่องบาดหมางอะไรกับผู้ตายมากนักนอกจากเรื่องแฟนของเขา”
“อืม…”
“แล้วก็คุณซอจูฮยอน แฟนของคุณยงฮวา คุณกิโกไม่ค่อยชอบเธอ แล้วก็ชอบหาว่าเธอมาคบกับลูกชายของเขาเพราะอยากได้เงิน แต่คุณจูฮยอนเธอบอกว่าเธอคบกับคุณยงฮวาเพราะความรักจริงๆ”
“แล้วมีใครอีกมั้ย”
“มีเท่านี้แหละ”
“แล้วใครเป็นผู้พบศพคนแรกล่ะ” ซองกยูถามอีก
“คุณซนเยจิน ที่เอาเอกสารเข้าไปให้ตอนบ่ายน่ะ เธอเข้าไปแล้วก็เห็นของคุณกิโกเสียชีวิตอยู่บนเก้าอี้ทำงาน ซึ่งเธอไม่ใช่คนร้ายแน่นอนเพราะช่วงเช้าเธอติดธุระเลยไม่ได้มาทำงาน”
“แล้วตอนนี้ปล่อยตัวผู้ต้องสงสัยไปแล้วใช่มั้ย” ซองกยูถามต่อ
“ใช่ รอได้ข้อมูลเพิ่มแล้วจะเรียกมาสอบสวนเพิ่มทีหลัง”
“แล้วได้เก็บรอยนิ้วมือหรือดีเอ็นเอของผู้ต้องสงสัยไว้ไหม”
“เก็บแต่รอยนิ้วมือน่ะ”
“งั้นเหรอ… อ่า งั้นฉันขอตัวก่อนนะชางมิน ไปล่ะ ไว้เจอกัน” ซองกยูบอกลาเพื่อนเมื่อมาถึงรถที่จอดไว้ แล้วขับรถมุ่งไปยังสถานที่แห่งหนึ่งในย่านXXX
กรุ๊ง กริ๊ง
“ร้านMY MY ยินดีต้อนรับค่ะรับอะไรดีคะ” หญิงสาวเอ่ยเสียงสดใสเมื่อได้ยินเสียงกระดิ่งที่ประตู ขณะที่กำลังเก็บแก้วกาแฟอยู่
“อเมริกาโนเย็นแก้วนึงครับ”
“คุณซองกยู…” หญิงสาวเงยหน้าขึ้นมาตามเสียงที่คุ้นหู
“ครับ” ชายหนุ่มส่งยิ้มให้
“อ่า… งั้นรอสักครู่นะคะ” หญิงสาวหันกลับไปเริ่มทำกาแฟให้ชายหนุ่ม
“…ผมถามอะไรคุณหน่อยได้ไหมครับ” ชายหนุ่มเอ่ยขึ้น
“จะสอบสวนต่อหรอคะ” หญิงสาวพูดยิ้มๆ ทำไมเธอจะไม่รู้ว่าเธอตกเป็นผู้ต้องสงสัยคนหนึ่ง
“ไม่เชิงครับ”
“ถามมาเถอะค่ะ”
“ทำไมคุณถึงไม่ไปทำงานที่บริษัทกับพ่อของคุณล่ะ”
“ฉันไม่ชอบทำงานบริษัทน่ะค่ะ ไม่ชอบเข้าประชุม ไม่ชอบเอกสารมากมาย แล้วก็ไม่ชอบอีกหลายๆอย่าง ฉันชอบทำในสิ่งที่ชั้นทำอยู่มากกว่า… อเมริกาโนเย็นได้แล้วค่ะ ไม่ต้องจ่ายเงินนะคะ เดี๋ยวฉันเลี้ยง” หญิงสาวตอบไปตามความจริงพร้อมยกแก้วกาแฟมาวางไว้หน้าชายหนุ่ม
“ขอบคุณครับ… แล้วจริงหรือเปล่าที่ความสัมพันธ์ของคุณกับพ่อของคุณไม่ค่อยดี”
“…จริงค่ะ คุณพ่อเคยบังคับให้ชั้นแต่งงานเมื่อปีที่แล้ว แต่ชั้นไม่ยอมแต่ง แถมพ่อก็ยังคอยบังคับให้ฉันไปทำงานกับคุณพ่อท่านตลอด จนทุกวันนี้ฉันย้ายหนีออกมาอยู่คอนโดคนเดียว ก็เลยยิ่งห่างกันเข้าไปใหญ่… ถ้าคุณแม่ของฉันยังไม่เสีย ท่านน่าจะเข้าใจฉันแล้วก็ช่วยพูดกับคุณพ่อให้ได้” หญิงสาวเล่าออกมาเชิงตัดพ้อเล็กน้อย
“…” ชายหนุ่มนั่งฟังเงียบๆ แล้วก็มีสีหน้าเครียดขึ้นจนหญิงสาวสังเกตได้
“คุณดูเครียดๆนะคะ”
“ก็นิดหน่อยครับ เพราะคดีนี้ค่อนข้างจะเป็นที่สนใจ เพราะเป็นการฆาตกรรมประธานบริษัทรายใหญ่ของเกาหลี”
“ค่อยๆคิดก็ได้ค่ะ เครียดมากไประวังเสียสุขภาพนะคะ” หญิงสาวพูดเมื่อเห็นชายหนุ่มยังคงเครียดไม่หาย นัยน์ตาเล็กๆของชายหนุ่มที่ฉายแววจริงจังดูน่าหลงใหลและมีเสน่ห์
“…”
“เวลาฉันเครียดๆหรือมีเรื่องไม่สบายใจ ฉันมักจะไปที่ที่หนึ่ง เดี๋ยวชั้นพาคุณไปดีไหม”
“ไม่เป็นไรหรอกครับ รบกวนคุณเปล่าๆ”
“ไม่หรอกค่ะ ตอนนี้สี่โมงเย็นเป็นเวลาปิดร้านแล้ว เดี๋ยวฉันพาไป” อึนจีเก็บของหลังเคาน์เตอร์แล้วเดินออกมาตรงที่ชายหนุ่มนั่งอยู่
“งั้นแล้วแต่คุณเลยครับ” เมื่อชายหนุ่มมองเข้าไปในดวงตาคู่สวยแล้วก็ไม่อยากจะนึกเลยว่าเธอจะเป็นผู้ต้องสงสัย ซองกยูยอมรับว่าเขาค่อนข้างสนใจในตัวของหญิงสาวแม้จะเพิ่งพบกันไม่กี่ครั้ง อึนจีดูแตกต่างจากคนทั่วไปและแตกต่างจากผู้หญิงคนอื่นที่เขาเคยเจอ เธอเลือกที่จะทำสิ่งที่ชอบแทนสิ่งที่ได้ผลตอบแทนมากกว่า
.
.
.
.
.
.
.
.
“ที่นี่แหละค่ะ” หญิงสาวปิดร้านแล้วเดินพาตำรวจหนุ่มนอกเครื่องแบบมาถึงสวนสาธารณะที่ไม่ห่างจากร้านMY MYมากนัก
“อากาศดีนะครับ” ทั้งคู่เข้ามาในสวนและเดินไปตามทางช้าๆ ซองกยูลอบมองใบหน้าสวยธรรมชาติของหญิงสาวจากด้านข้างอยู่เป็นระยะๆ เครื่องสำอางบางๆที่ถูกแต่งแต้มไว้บางๆขับผิวเนียนให้ดูโดดเด่นสะดุดตา ทั้งคู่เดินสูดอากาศบริสุทธิ์ที่ทำให้รู้สึกผ่อนคลายมากขึ้นไปเรื่อยๆ ไม่ได้มีใครพูดอะไรต่อ จนกระทั่งอึนจีเอ่ยทำลายความเงียบขึ้น
“คุณซองกยู” หญิงสาวเรียก “เอ่อ… ตรงๆนะคะ คุณสงสัยว่าฉันจะเป็นคนฆ่าคุณพ่อใช่ไหมคะ”
“คือ… เอ่อ… ให้ตอบตามตรงก็ใช่ครับ”
“ฮึฮึ” หญิงสาวก้มหน้าหัวเราะเบาๆ “ฉันไม่รู้ว่าพูดไปคุณจะเชื่อไหม แต่ฉันก็อยากบอกว่าถึงความสัมพันธ์ของฉันกับคุณพ่อจะไม่ค่อยดี แต่ชั้นไม่ได้เป็นคนฆ่าคุณพ่อนะคะ” หญิงสาวพูดเสียงอ่อยๆ อึนจีไม่อยากจะถูกตำรวจ…โดยเฉพาะชายหนุ่มที่อยู่ข้างเธอตอนนี้สงสัยว่าเธอเป็นฆาตกรเลยสักนิด
เธอพอจะเข้าใจว่าในทางเทคนิคแล้วเธอตกเป็นผู้ต้องสงสัย แต่ถ้าพูดถึงความรู้สึก…เธอไม่อยากให้คิมซองกยูคิดว่าเธอเป็นผู้ต้องสงสัยเอาเสียเลย หญิงสาวรู้สึกว้าวุ่นใจแปลกๆเมื่อซองกยูยอมรับว่าสงสัยเธอ ซึ่งแน่นอนว่าอึนจีไม่ชอบความารู้สึกแบบนี้เลย…นี่เธอเป็นอะไรไปนะ ทำไมต้องแคร์สิ่งที่ชายหนุ่มคิดด้วย
วันต่อมา…
“อ้าว คุณซองกยู” อึนจีที่ยืนอยู่หลังเคาน์เตอร์เอ่ยทักชายหนุ่มที่เพิ่งเดินเข้าร้านมา “วันนี้จะมาสอบสวนฉันอีกเหรอคะ”
“เปล่าครับ วันนี้ผมมาในฐานะลูกค้า กาแฟของคุณอร่อยดีนะครับ หอมมากเลย” ยกยิ้มจนตาเกือบปิด แล้วตอบหญิงสาวไปตามตรง
“ขอบคุณค่ะ งั้นวันนี้รับอะไรดีคะ” หญิงสาวยิ้มตอบอย่างมีความสุขเมื่อได้รับคำชมจากชายหนุ่ม หัวใจเต้นแรงขึ้นอย่างไม่รู้สาเหตุ
“ลาเต้ร้อนครับ”
“งั้นสักครู่นะคะ” หญิงสาวเริ่มลงมือทำกาแฟให้ชายหนุ่ม ส่วนระหว่างรอซองกยูก็นั่งสูดดมกลิ่นกาแฟหอมกรุ่นที่ลอยอยู่ในอากาศพลางแอบมองหญิงสาวที่กำลังทำกาแฟอย่างมีความสุข
“ลาเต้ร้อนได้แล้วค่ะ” หญิงสาวยกแก้วกาแฟมาเสิร์ฟให้ชายหนุ่มที่นั่งรออยู่
“โอ้! คุณทำลาเต้อาร์ทเป็นด้วยเหรอครับ สวยจัง”
“ก็…ทำเป็นนิดหน่อยค่ะ ขอบคุณนะคะ” หญิงสาวยิ้มตอบเขินๆ เพราะซองกยูเอ่ยชมลาเต้อาร์ทรูปหัวใจที่เธอทำให้…ทั้งๆที่ปกติเธอมักจะทำเป็นรูปใบไม้เสียมากกว่า
กรุ๊ง กริ๊ง
“ไงอึนจี” เสียงประตูดังขึ้นพร้อมกับชายหนุ่มคนหนึ่งก้าวเข้ามาในร้าน
“พี่ยงฮวา..” อึนจีทักผู้ที่เข้ามาใหม่ “แล้ววันนี้พี่ซอฮยอนไม่มาด้วยหรอ”
“ซอฮยอนทำงานน่ะ อึนจีพี่เอากาแฟเหมือนเดิมนะ”
“โอเค” หญิงสาวยกมือขึ้นมาทำเป็นสัญลักษณ์โอเคแล้วขยิบตาครั้งหนึ่งอย่างน่ารัก จากนั้นจึงหันไปชงกาแฟให้พี่ชาย ทุกการกระทำนั้นอยู่ในสายตาของซองกยูตลอดเวลา
‘ความสัมพันธ์ของพี่น้องคู่นี้ก็ดูเหมือนว่าจะเป็นปกติดี ต่างคนต่างก็ไม่ได้ดูมีพุรุธอะไร ถ้าไม่ได้เป็นคนร้ายก็คงจะไม่ใช่ทั้งคู่ แต่ถ้าเป็นคนร้ายก็อาจจะร่วมมือกันวางแผน’ แม้รอยยิ้มและท่าทางน่ารักของหญิงสาวจะทำให้ซองกยูแอบใจสั่นเล็กน้อย แต่ตำรวจหนุ่มก็ไล่ความคิดถึงเรื่องส่วนตัวออกไปแล้วคิดเกี่ยวกับเรื่องงานแทน ‘เหตุจูงใจในการฆ่าทั้งสองก็มี ของคุณอึนจีคือการถูกบังคับและความสัมพันธ์ที่ไม่ค่อยดี ส่วนของคุณยงฮวาก็น่าจะเป็นเรื่องคนรัก’ แต่ยิ่งคิดตำรวจหนุ่มก็ยิ่งปวดหัวเพราะมันเป็นเพียงการสันนิษฐานของเขาเท่านั้น ยังไม่มีหลักฐานหรือพยานอะไรมารองรับ
“อ้อ! พี่ นี่คุณคิมซองกยู ตำรวจที่ทำคดีของคุณพ่ออยู่ แล้วก็เป็นคนที่ช่วยฉันในผับคืนนั้นด้วย” ละมือจากกาแฟชั่วคราวแล้วแนะนำซองกยูให้กับพี่ชายตนเองรู้จัก
“อ้อ! สวัสดีครับ จองยงฮวา พี่ชายของอึนจียินดีที่ได้รู้จักครับ” ยงฮวาทักทายอย่างเป็นทางการ
“ยินดีที่ได้รู้จักเช่นกันครับ” ซองกยูหลุดออกจากภวังค์ความคิดของตัวเองเพราะเสียงของหญิงสาว
“ขอบคุณมากนะครับที่ช่วยน้องสาวผมไว้เมื่อคืนนั้น”
“ด้วยความยินดีครับ”
“มาดื่มกาแฟเหรอครับ?” ยงฮวาเอ่ยปากชวนคุย
“ครับ คุณอึนจีทำกาแฟอร่อย ถูกปากมากครับ” ตำรวจหนุ่มตอบไปตามความจริง
“เธอแอบไปเรียนทำของเธอเองน่ะครับ ผมกับพ่อมารู้ว่าเธอมีฝีมือก็ตอนเธอมาเปิดร้านนี่แหละ”
“อะแฮ่ม เม้าท์อะไรฉันอยู่คะ พี่กาแฟได้แล้ว” อึนจียกกาแฟมาเสิร์ฟให้พี่ชาย ขัดวงสนทนาที่กำลังพูดถึงตนอยู่
“ใครเม้าท์อะไรเธอ ไม่มีสักหน่อย พี่ไปทำงานต่อละ ไว้เจอกันนะ” ยงฮวาลุกขึ้นแล้วถือแก้วกาแฟเตรียมตัวกลับไปทำงานต่อ
“อื้ม แล้วพักผ่อนซะบ้างนะ ทั้งพี่ทั้งพี่ซอฮยอนเลย อย่าให้พี่ซอฮยอนเขาไปเป็นลมหน้ากระแทกอะไรอีกล่ะ” หญิงสาวยิ้มตอบพี่ชาย
“รู้แล้วน่า… แล้วเจอกันครับคุณซองกยู” ตอบรับน้องสาวของตน แล้วหันมาเอ่ยปากลาตำรวจหนุ่มที่นั่งอยู่
“ครับ” ตำรวจหนุ่มตอบ แล้วยงฮวาก็เดินออกจากร้านไป
ยุกชิบโชมยอน ชุงบุ นัน Story แนมามือโร นอน ทึลลอวัดซอ~
“ไงชางมิน” ซองกยูกดรับสายหลังจากได้ยินเสียงเรียกเข้าโทรศัพท์ของตน
“ฉันได้ข้อมูลจากพิสูจน์หลักฐานเพิ่มน่ะ… เราตรวจพบว่าเหรียญที่ตกอยู่ในที่เกิดเหตุน่ะมีรอยนิ้วมือของคุณอึนจีที่เป็นลูกสาวของคุณกิโกติดอยู่…”
“แป๊บนึงนะๆ” เมื่อซองกยูได้ยินก็เหลือบมองไปที่หญิงสาวที่นั่งเล่นมือถือของตนอยู่แล้วก็รีบลุกออกไปนอกร้านเพื่อคุยโทรศัพท์
“รอยนิ้วมือคุณอึนจีเหรอ” ชายหนุ่มทวนเมื่อเดินออกมานอกร้านแล้ว
“ใช่.. แล้วที่ปืนก็มีรอยนิ้วมือของเธอติดอยู่ด้วย” เมื่อชางมินเล่าพูดมาถึงตรงนี้ซองกยูก็แทบลืมหายใจ
“นายแน่ใจเหรอ ตรวจผิดหรือเปล่า” ชายหนุ่มไม่อยากเชื่อหูตัวเอง อยากจะปักใจเชื่อว่าหญิงสาวเจ้าของร้านกาแฟไม่ใช่ฆาตกร แต่หลักฐานที่พบก็ไม่สามารถปฏิเสธได้เช่นกัน มันดูเหมือนจะสนับสนุนข้อสันนิษฐานของเขาที่ว่าอึนจีจะเป็นคนร้ายเลย…
“แน่สิ แต่ที่ปืนมีรอยนิ้วมือของคุณจูฮยอนอยู่ด้วยนะ” ชางมินตอบมา
“มีรอยนิ้วมือสองคน?” ซองกยูเบิกตากว้างขึ้นเล็กน้อย
“ใช่”
“แล้วรู้อะไรอีกมั้ย”
“ยัง ตอนนี้เรารู้แค่นี้”
“หรอ… อืม งั้นแค่นี้นะ ไว้พรุ่งนี้เจอกันที่สน.” ซองกยูเอ่ยลาเพื่อนแล้วกดวางสายไป ยัดโทรศัพท์เครื่องหรูใส่กระเป๋ากางเกงแล้วเดินกลับเข้ามาในร้าน นั่งจิบกาแฟพลางคิดถึงเรื่องคดีต่ออีกสักพัก
“งั้นวันนี้ผมกลับก่อนนะครับ” เมื่อดื่มกาแฟจนหมดชายหนุ่มก็ลุกขึ้นมาจ่ายเงินแล้วบอกลาหญิงสาว
“ค่ะ ไว้เจอกันค่ะ” หญิงสาวเงยหน้าขึ้นมาส่งยิ้มให้กับซองกยูพลางชงโกโก้ให้กับลูกค้าที่รออยู่ต่อ รอยยิ้มสดใสที่ซองกยูไม่เคยคิดเลยว่ามันจะอยู่บนใบหน้าของฆาตกรได้
วันต่อมาที่สถานีตำรวจ ซองกยูมาทำงานตามปกติ แต่เหมือนว่าวันนี้ชายหนุ่มจะทำงานได้ไม่เต็มร้อยเท่าไร เพราะในหัวกำลังหมกมุ่นอยู่กับความคิดของตนเอง ‘คุณอึนจีเป็นคนร้ายจริงหรือเปล่า?’ ‘เธอจะฆ่าพ่อแท้ๆของตัวเองได้เหรอ’ ‘หรือคนร้ายคือคุณจูฮยอน…แต่ก็ยังไม่มีหลักฐานแน่ชัด เพราะบนปืนก็มีรอยนิ้วมือคุณอึนจีอยู่ด้วย’ ‘หรือว่าทั้งสองคนร่วมมือกันฆ่าคุณกิโก’ คำถามมากมายตีกันอยู่ในหัว
“เฮ้ย! ซองกยู” ชางมินทำหน้าตกใจเดินมาหาซองกยูที่โต๊ะ
“มีอะไร? ทำไมทำหน้าแบบนั้น”
“ได้ข้อมูลเกี่ยวกับคดีเพิ่ม”
“ห้ะ!? อะไรๆ ว่ามาๆ” ชายหนุ่มเบิกตาเล็กๆของตนกว้างขึ้นเมื่อได้ยินเรื่องที่ชางมินกำลังจะพูด
“เราพบหลักฐานเพิ่ม เป็นเส้นผมยาวเหมือนของผู้หญิง และพบรอยเลือดเล็กๆที่ไม่ใช่ของคุณกิโกอยู่ที่มุมโต๊ะทำงานด้วย แต่ตอนนี้ยังไม่รู้ว่าเป็นของใคร และเราก็กำลังส่งคนไปขอเก็บตัวอย่างดีเอ็นเอของผู้ต้องสงสัยมาตรวจ”
“แล้วผลดีเอ็นเอได้เมื่อไหร่ อีก 3 วันใช่ไหม”
“ใช่ และถ้าเราได้ผลดีเอ็นเอมาแล้วก็น่าจะรู้ว่าคนร้ายเป็นใคร เพราะรอยเลือดนั้นต้องเป็นของคนร้ายแน่ๆเลย” ชางมินบอก ซึ่งคำพูดนั้นก็ทำให้ซองกยูบอกกับตัวเองว่าเขาจะต้องยอมรับความจริงให้ได้ ความถูกต้องต้องมาก่อน และเขาก็ควรจะเผื่อใจไว้ด้วยหากว่าหญิงสาวเป็นคนร้ายจริงๆ
ตลอด 3 วันมานี้ เป็น 3 วันที่ยาวนานราวกับ 3 ปีสำหรับซองกยู รอผลตรวจดีเอ็นเอเพื่อระบุตัวคนร้าย และหวังว่าคนร้ายคงจะไม่ใช่เธอคนนั้น… แต่อย่างไรเสีย ซองกยูก็ยังคงไปที่ร้านกาแฟMY MYอยู่ทุกเย็น
และสำหรับอึนจีตลอด 3 วันหลังจากที่มีเจ้าหน้าที่มาขอเก็บตัวอย่างดีเอ็นเอของเธอ ซองกยูมาที่ร้านของเธอทุกวัน นั่นทำให้เธอรู้สึกดีใจอยู่ไม่น้อยที่ยังได้เห็นใบหน้าทรงเสน่ห์นั้นอยู่ แต่ก็ต้องรู้สึกเจ็บแปลบในหัวใจเมื่อการมาของชายหนุ่ม 3 วันนี้เขามองเธอด้วยสายตาที่แปลกไป ไม่เหมือนสายตาที่เขาเคยใช้มองเธอก่อนหน้านี้ มันเป็นสายตาของความไม่ไว้ใจ รวมถึงเขาพูดคุยกับเธอน้อยลงด้วย น้ำเสียงที่ใช้ก็นิ่งเหมือนน้ำเสียงตอนสืบสวนคดี…เขาทำราวกับเธอเป็นคนร้าย…หญิงสาวรับรู้ได้ว่าชายหนุ่มยังคงไม่เชื่อเธออย่างสนิทใจว่าเธอไม่ใช่ฆาตกร
สถานีตำรวจ
“ได้ผลตรวจดีเอ็นเอรึยังครับ” ซองกยูกรอกเสียงลงไปในโทรศัพท์
“ได้แล้วค่ะ ตอนนี้เราส่งเอกสารไปให้แล้ว อีกสักพักทางคุณคงได้รับ”
“โอเคครับ ขอบคุณครับ” เมื่อได้รับคำตอบดังนั้นจึงวางสายไป
.
.
.
.
.
.
.
“ซองกยู” ชางมินเดินมาหาซองกยูพร้อมกับแฟ้มสีดำในมือ
“ว่าไงชางมิน” ชายหนุ่มนั่งพิงพนักเก้าอี้ทำงานต่อ ไม่ได้หันไปหาชางมิน
“เราได้ผลตรวจดีเอ็นเอแล้วนะ”
“อะไรนะ ไหนเอามาดูสิ” ซองกยูลุกขึ้นจากเก้าอี้อย่างรวดเร็วแล้วคว้าแฟ้มสีดำในมีเพื่อนมาเปิดดู
“เฮ้ย! ใจเย็นดิวะ”
“จริงเหรอเนี่ย…” ซองกยูรำพึงออกมาเมื่อได้ดูผลตรวจในแฟ้ม
ขณะนี้ทางตำรวจสามารถจับกุมตัวคนร้ายคดีฆาตกรรมคุณจอ กิโก ประธานบริษัทเฟอร์นิเจอร์รายใหญ่ได้แล้ว โดยคนร้ายคือนางสาวซอจูฮยอน ซึ่งเป็นแฟนสาวของคุณจองยงฮวา รองประธานบริษัทและลูกชายของคุณกิโก เธอรับสารภาพว่าเธอก่อคดีนี้คนเดียวโดยปืนที่ใช้เธออ้างว่าได้รับมาจากนายโจวคยูฮยอน แฟนเก่าของเธอ ส่วนแรงจูงใจในการก่อเหตุคือเธอถูกกีดกันจากคุณยงฮวาโดยคุณกิโก ซ้ำยังถูกต่อว่าด่าทออย่างรุนแรงว่าต้องการจะหลอกเอาทรัพย์สินของคุณยงฮวาและถูกทำร้ายร่างกายโดยการตบจนปากแตก เธอจึงบันดาลโทสะหยิบปืนที่ซ่อนไว้ในกระเป๋าเครื่องสำอางขึ้นมาสังหารคุณกิโก
หญิงสาวนั่งเปิดข่าวในอินเทอร์เน็ตอ่าน ซึ่งก็เป็นข่าวเกี่ยวกับการฆาตกรรมของพ่อของเธอเอง วันที่ตำรวจจับกุมตัวซอฮยอนได้นั้น ทางตำรวจก็ได้ติดต่อมาที่เธอและยงฮวาแล้ว และได้เล่าถึงหลักฐานที่พบในที่เกิดเหตุว่าเกี่ยวกับอึนจีอย่างไร ทั้งเหรียญที่มีรอยนิ้วมือของเธอซึ่งจริงๆแล้วคือเหรียญที่เธอทอนเงินให้ซอฮยอน รวมถึงรอยนิ้วมือของเธอที่ติดอยู่บนปืนตอนที่ซอฮยอนนำปืนมาแนะนำให้เธอพกเอาไว้หลังจากเหตุการณ์ในผับและเธอไปจับมันเข้า ทำให้เธอตกเป็นผู้ต้องสงสัยอีกรายหนึ่ง แต่เนื่องจากดีเอ็นเอจากเส้นผมและรอยเลือดที่คาดว่าคงจะเปื้อนที่โต๊ะตอนซอฮยอนถูกคุณกิโกตบนั้นเป็นของซอฮยอนจริงๆ รวมถึงการสัณนิษฐานเวลาเสียชีวิตของคุณกิโกก็ใกล้เคียงกับเวลาในกล้องวงจรปิดที่ซอฮยอนออกมาจากห้องของคุณกิโก ทำให้อึนจีหลุดพ้นจากการเป็นผู้ต้องสงสัยได้ และซอฮยอนก็ต้องได้รับโทษตามกฎหมาย
ซองกยูนั่งอยู่ที่โต๊ะทำงาน ตอนนี้ใกล้เวลาเลิกงานของเขาแล้ว…หลังจากปิดคดีของคุณจองกิโกไปก็หนึ่งอาทิตย์แล้วที่เขาไม่ได้แวะไปที่ร้านMY MYหรือแม้กระทั่งติดต่อกับหญิงสาวเจ้าของร้านเลย ทำให้ชายหนุ่มรู้สึกมาตลอด 1 อาทิตย์นี้ว่ามันมีอะไรขาดๆไปจากชีวิตประจำวันของเขา…
สี่โมงเย็นแล้ว แต่อึนจีก็ยังไม่ปิดร้าน และเป็นอย่างนี้มา 1 อาทิตย์แล้ว… 1 อาทิตย์แล้วที่ชายหนุ่มไม่ได้แวะมาที่ร้านหรือติดต่อเธอเลยซึ่งก็ทำให้หญิงสาวแอบรู้สึกน้อยใจอยู่บ้าง ทั้งเรื่องที่เขาไม่เชื่อเธอว่าเธอไม่ใช่คนร้าย แถมพอจับตัวคนร้ายได้ก็ไม่แวะมาหาเธอเลยสักครั้ง อึนจีรู้สึกเหงา… ทั้งที่ไม่เคยเป็นมาก่อน แต่ก่อนเมื่อถึงเวลาปิดร้านเธอก็จะเก็บของกลับคอนโด แต่ตอนนี้ เธอกำลังรอ… รอตำรวจหนุ่มใจดีคนนั้น จนกระทั่งฟ้าเริ่มมืดลง…
กรุ๊ง กริ๊ง
เหมือนสวรรค์จะรับรู้ได้ถึงจิตใจที่ตรงกันของคนสองคน เสียงกระดิ่งประตูร้านดังขึ้น ทำให้หญิงสาวรีบหันตาม
“วันนี้คุณมาทำอะไรคะ” เมื่อพบว่าคนที่ก้าวเข้ามาในร้านเป็นใคร อึนจีก็ยังคงเอ่ยทักด้วยน้ำเสียงที่เจอความน้อยใจ ทั้งที่หัวใจกำลังยิ้มอย่างมีความหวัง
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
“ผมมาจับคนร้ายครับ” ซองกยูตอบหญิงสาวด้วยใบหน้าเปื้อนยิ้ม
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
“คราวนี้คดีอะไรอีกล่ะคะ”
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
“คดี…ขโมยหัวใจของผมครับ”
..ปิดคดี..
.................................................................................................................................................................
โผล่มาแก้ไขสำนวนและรีไรท์บางส่วนนิดๆหน่อยๆค่ะ^^' แต่ความเลี่ยนตอนจบยังคงไว้เหมือนเดิม 5555555555
ขอบคุณรีดเดอร์ที่ติดตามอ่านนะคะ
ก๊อกๆๆ มีใครอยู่ม้ายยยย เค้ามาฝากนิยายเรื่องใหม่ คู่ซองกยูอึนจีเหมือนเดิมเลย ใครสนก็ไปอ่านกันน้า^^
ผลงานอื่นๆ ของ Kiratar ดูทั้งหมด
ผลงานอื่นๆ ของ Kiratar
ความคิดเห็น